รีวิว Mibro Watch GS Pro นาฬิกาสมาร์ทวอร์ช อัพเกรดฟังก์ชันใหม่ พร้อมลุยทุกสถานการณ์

Last updated: 20 พ.ย. 2566  |  4023 จำนวนผู้เข้าชม  | 

รีวิว Mibro Watch GS Pro นาฬิกาสมาร์ทวอร์ช อัพเกรดฟังก์ชันใหม่ พร้อมลุยทุกสถานการณ์

     สมาร์ทวอร์ชในปัจจุบันนั้นมีให้เลือกใช้งานมากมาย และมีหลากหลายฟังก์ชันให้ผู้ใช้งานได้เลือกหากัน โดยทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับราคา รวมถึงความต้องการของผู้ใช้งานที่แตกต่างกันออกไปด้วย แต่ในวันนี้เราได้สมาร์ทวอร์ชใหม่ ที่มีฟังก์ชันครบๆ ในราคาที่เบามากๆ มารีวิวให้ชมกัน หลายๆคนน่าจะรู้จากชื่อบทความนี้อยู่แล้ว ใช่ครับ วันนี้เราจะมารีวิวเจ้า Mibro Watch GS Pro สมาร์ทวอร์ชตัวใหม่จาก Mibro ที่อัดแน่นไปด้วยฟังก์ชันที่ทุกคนต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการอัพเกรด GPS มาใหม่ การเพิ่มความสามารถในการโทรเข้า - โทรออกผ่านตัวนาฬิกา รวมไปถึง จุดเด่นต่างๆ ที่ทำได้ดีอยู่แล้วในตัวของ Mibro Watch GS รุ่นเก่ามาได้อย่างครบถ้วน จากสเปคที่กล่าวมาเบื้องต้น หลายคนน่าจะอยากไปดูรีวิวกันแล้ว ถ้างั้นเราไปดูรีวิวกันเลยดีกว่า

ก่อนจะชมตัวจริง เรามาดูกล่องกันหน่อยดีกว่า

     กล่องของเจ้า Mibro Watch GS Pro จะมาพร้อมกับการดีไซน์ที่เน้นความเข้มขรึม ดูเท่ตั้งแต่ยังไม่แกะกล่อง ซึ่งถือว่าเป็น รูปแบบกล่องที่ทำออกมาใหม่ ให้ความรู้สึกที่แปลกตากว่ารุ่นอื่นๆ สำหรับบนหน้ากล่องจะมีโลโก้ Dual-Core 2 in 1 หรือก็คือ ชิปเซ็ต 2 แกนนั้นเอง ซึ่งเค้าจะฝังชิป Bluetooth กับ GPU มาให้ในชิปเซ็ตเลย ถัดมาจะเป็นโลโก้ GPS ที่แปะมาให้บนกล่องเลย ซึ่งแน่นอนว่านาฬิการุ่นนี้ จะสามารถใช้งานฟังก์ชัน GPS ได้อย่างแน่นอน ในส่วนด้านล่างจะมีการบอกมาเลยว่าในกล่องมีสายมาให้ถึง 2 เส้น ด้านหลังของกล่อง จะมาพร้อมกับรายละเอียดต่างๆ ของนาฬิกาแบบคร่าวๆ ไม่ว่าจะเป็นโมเดลสินค้า การเชื่อมต่อ รวมถึงอุปกรณ์ภายในกล่องด้วย ในส่วนของด้านข้าง ของกล่อง จะมีรายละเอียดเกี่ยวกับฟังก์ชันของนาฬิการุ่นนี้ ว่ามีอะไรบ้าง ให้เราได้รู้แบบคร่าวๆ เผื่อใครที่จำรายละเอียดไม่ได้ หรือ ไม่รู้อาจจะดูจากตรงนี้เพื่อเติมก็ได้ โดยจะมีรายละเอียดฟังก์ชันที่เขียนมาดังนี้
     • Ultra-Strong 2-in-1 Chip (ชิปเซ็ตของนาฬิกา)
     • BT Calling (รองรับการโทรผ่านาฬิกา)
     • AMOLED HD Display (หน้าจอขนิด AMOLED)
     • GPS Satellite Positioning (มี GPS สามารถระบุตำแหน่งเมื่อวิ่ง)
     • 9-Axis Motion Sensor (เซนเซอร์วัดการเคลื่อนไหว 9 แกน)
     • Altitude & Barometer (วัดความสูง และความดันอากาศ)
     • 4-PD Heart Rate Monitoring (เซนเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ 4 จุด)
     • 105-Sport Modes (โหมดออกกำลังกาย 105 โหมด)
     • 5ATM Water Resist (มาตรฐานการกันน้ำ 50 เมตร)
     • 20-Days Battery Life (แบตเตอรี่ใช้ได้นานสุด 20 วัน ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง)


งั้นไปเริ่มแกะกล่องกันเถอะ

     เมื่อแกะกล่องออกมาจะเจอกับตัวนาฬิกาที่ตั้งอยู่กลางกล่องแบบดูเด่นเป็นสง่าเลยทีเดียว ส่วนอุปกรณ์ต่างๆ ที่แถมมาให้ รวมไปถึงคู่มือการใช้งาน จะอยู่ด้านล่างของกล่องอีกชั้นนึง ให้ดึงตัวนาฬิกาออกมาก่อน จะเจอกับอุปกรณ์ที่ให้มาได้แก่ สายนาฬิกาแบบผ้า Active Loop 1 เส้น , สายชาร์จนาฬิกาแบบแม่เหล็ก และรวมถึงคู่มือการใช้งานด้วย สำหรับสายนาฬิกาที่แถมมาให้ จะเป็นสายที่มีวัสดุ และดีไซน์ที่คล้ายกับสายของเจ้า Mibro Watch C3 หรือ A2 เลย แต่จะมีความต่างในเรื่องของสีเพียงเล็กน้อย ในเรื่องของความลื่นไหลของสายเวลาปรับขนาดสาย รู้สึกว่าจะทำได้ดีมากขึ้นกว่ารุ่นที่แล้วนิดหน่อย ส่วนสายชาร์จยังคงเป็นแบบแม่เหล็กติดด้านหลังนาฬิกาอยู่ แต่มองว่าการชาร์จแบบนี้ก็สะดวกดีเหมือนกันนะ เวลาพกก็ง่ายดี ขนาดไม่ใหญ่ด้วย


รีวิวเมื่อแกะกล่อง และแรกเห็นครั้งแรกกันหน่อย

     ครั้งแรกที่ได้เห็นต้องบอกเลยว่า โอเคหล่อกว่าในรูปจริงๆ ตอนแรกนึกว่าจะมาหน้าตาคล้ายๆกับ Mibro Watch GS กับ X1 แต่ตัวจริงมีดีเทลต่างๆ ที่แตกต่างกันออกไป แล้วดูเหมือนว่าจะเป็น Mibro ที่มีความรู้สึกว่า ลุยได้มากขึ้น และหล่อมากกว่ารุ่นก่อนๆที่เคยมีมาด้วย โดยตัวขอบนาฬิกา หรือที่เรียกว่า Bezel ตัวนี้จะใช้วัสดุสแตนเลส 316L ซึ่งจุดเด่นของสแตนเลสชนิดนี้จะมีความทนทานต่อกรด น้ำทะเล ส่วนมากจะใช้กับอุตสาหกรรมอาหาร, อุตสาหกรรมเคมี, ชิ้นส่วนอุปกรณ์ทางการแพทย์ และอุตสาหกรรมชิ้นส่วนที่ต้องสัมผัสกับน้ำทะเล ใบด้านของตัวบอดี้นาฬิกา อันนี้เค้าบอกว่าเป็นวัสดุ PA + GF หรือชื่อเต็มๆคือ Polyamide with glass fiber มีคุณสมบัติที่เหนียว แข็งแรงทนทาน เกิดริ้วรอยได้ยาก และทนต่อความร้อนได้มากกว่า เป็นจุดเด่นของแบรนด์ Mibro ที่ใช้วัสดุตัวนี้มาตั้งแต่รุ่นก่อนหน้านี้มาอย่างยาวนาน ซึ่งผู้ที่เคยใช้งานต่างชื่นชอบ ในความทนทานของวัสดุตัวนี้มากๆ

     ในด้านของสายนาฬิกาตัวที่ซิลิโคน ที่มากับตัวเรือน จะมีความนุ่มในระดับนึงเลย หากใส่นานๆ จะมีความนุ่ม และสบายมากกว่านี้แน่นอน ตัวสายนาฬิกา ของเค้าจะเป็นแบบสายขนาด 18 มิลลิเมตร ที่ทำบ่าของสายให้มีขนาดใหญ่ขึ้นไปที่ขนาด 22 มิลลิเมตร ทำให้เข้ากับตัวนาฬิกาได้อย่างสบายๆ และดูสวยงามมากขึ้น เมื่อลองสวมใส่ดูแล้วสบายข้อมือมากๆ ตรงจุดที่เป็นเซนเซอร์รุ่นนี้เค้าใช้เป็นพลาสติกแบบด้าน ทำให้เวลาใส่สบายข้อมือมากขึ้น ซึ่งแตกต่างจากรุ่นเก่าๆ ที่ตรงหน้าเซนเซอร์จะเป็นวัสดุพลาสติกใส ทำให้เวลาใส่นานๆจะรู้สึกว่าระคายเคือง แต่กับรุ่น Mibro Watch GS Pro นี้ ไม่รู้สึกแบบนั้นเลย ถือว่าปรับปรุงมาได้ดีมากๆ ใส่นานๆทั้งวันก็ไม่รู้สึกว่าอึดอัด หรือไม่สบายข้อมือเลย


เรามาดูจุดเด่นที่น่าสนใจของรุ่นนี้กันหน่อยดีกว่า

     อย่างที่ทราบกันดีว่ารุ่นนี้มาพร้อมกับความสามารถในการใช้งาน GPS ที่ถือว่าเป็นจุดเด่นที่ถูกส่งต่อ และอัพเกรดมาจากรุ่น Mibro Watch GS เสริมด้วยฟังก์ชันการโทรเข้า-โทรออกผ่านนาฬิกา ทั้งนี้ฟังก์ชันหลายๆอย่าง ที่เป็นจุดเด่นของนาฬิกา Series GS ของ Mibro ก็ถูกยก และปรุงแต่งขึ้นมาได้อย่างสมบูรณ์มากขึ้น เป็นการพัฒนาต่อยอดของซีรี่ย์นี้ได้เป็นอย่างดี เพราะจากที่ได้ทดลอง ได้ใช้งานมาหลายๆรุ่น ทางแบรนด์มีการพัฒนา มาอย่างต่อเนื่องอันนี้ถือว่าน่าชื่นขมมากๆ อีกหนึ่งฟังก์ชันที่ตัวนี้มีมาให้ด้วยนั้นก็คือ การตรวจวัดการเคลื่อนไหวที่ให้มาถึง 9-Axis หรือ 9 แกนนั้นเอง นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันยิบย่อยอื่นๆอีกมากมาย ที่ช่วยเสริมให้นาฬิการุ่นนี้ น่าใช้งานขึ้นอีกมากๆ
     คุณสมบัติของสินค้า
        • ขอบตัวเรือน Stainless Steel 316L วัสดุตัวเรือน PA + GF (Polyamide with glass fiber)
        • หน้าจอ AMOLED ขนาด 1.43 นิ้ว ความละเอียด 466 x 466p (461PPI)
           • ค่า Refresh rate ของหน้าจอสูงถึง 60hz
           • อัพเกรดความสว่างหน้าจอให้สู้แสงมากขึ้น
           • Always-On Display แสดงเวลาตลอด เมื่อหน้าจอดับ
        • Auto Light Sensor เซนเซอร์ปรับแสงอัตโนมัติ
        • ชิปเซ็ต Dual-Core 2 in 1 พร้อมฝังชิป Bluetooth 5.3
           • ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น 80% + 2.5D GPU
        • อัพเกรด GPS ถึง 5 เครือข่าย (GPS / BDS / GLONASS / Galileo / QZSS)
        • Altitude & Barometer วัดความดันอากาศ และวัดความสูงเหนือระดับน้ําทะเล
        • 9-Axis เซนเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว 9 แกน
        • Bluetooth Calling ฟังก์ชันการโทรศัพท์ผ่านนาฬิกา
        • อัพเกรดเซนเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจเป็น 4 จุด (4PD) และมาพร้อม SpO2 + วัดการนอนหลับ
        • โหมดกีฬาที่เพิ่มาสูงสุดถึง 105 โหมด
        • แบตเตอรี่ความจุ 460mAh (ใช้งานแบบไม่ต่อแอปได้นานสุด 20 วัน)
        • มาตรฐานการกันน้ำ 5ATM (50 เมตร)


ความรู้สึกหลังใช้งาน และอุปกรณ์ที่ได้ลองทดสอบ

     หลังจากที่ได้ลองทดสอบใช้งานมา สิ่งที่ยังคงชื่นชอบอยู่ก็คือ การสวมใส่เนื่องจากตัวฝาหลังเค้าออกแบบมาให้ ทำให้เวลาใส่นานๆแล้วไม่ระคายเคือง ใช้งานทั้งวันก็ไม่รู้สึกรำคาญจนอยากถอดเหมือนรุ่นอื่นๆที่เคยเจอเลย ในเรื่องของดีไซน์เมื่ออยู่ในข้อมือ ด้วยความที่เค้าเป็นนาฬิกาดีไซน์สปอร์ตทำให้แต่งตัวได้ง่ายดี สามารถใส่ในวันทำงานก็ได้ ใส่เวลาไปเที่ยวกับชุดที่สบายๆก็ดี หรือใครที่มักออกงานทางการก็ใส่ได้ไม่มีปัญหา ถ้าจะให้ดีลองหาสายนาฬิกาแบบอื่นมาใส่เพิ่มก็ได้นะ จะให้ความรู้สึกที่แตกแต่งมากยิ่งขึ้นด้วย ในด้านของหน้าจอแสดงผล หน้าจอตัวนี้จากที่ได้ลองมา แตกต่างจากรุ่น GS พอสมควรเลย ทั้งในเรื่องของ ความคมชัดที่มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หน้าจอมีความสว่างกว่า รวมถึงการสัมผัสใช้งานลื่นกว่ารุ่นก่อนอยู่พอสมควรเลย อีกฟังก์ชันที่เพิ่มเข้ามาคือเรื่องของ Auto Light Sensor หรือเซนเซอร์วันแสงอัตโนมัติ ช่วยให้เวลาที่เดินเข้าที่มืด หรือออกไปเจอแสงที่สว่างมากๆ นาฬิกาจะปรับความสว่างให้เองอัตโนมัติ สำหรับเรื่องของการกันน้ำนาฬิการุ่นนี้ทำออกมาได้หายห่วง ไม่ว่าจะลุยขนาดไหน ก็ยังใช้งานได้ปกติ อุ่นได้ในระดับนึงเลย สิ่งที่ต้องระวังมีอย่างเดียวเลยคือ สารเคมีที่เป็นอันตราย กับน้ำทะเล ที่อาจจะทำให้ซีลยางเสื่อมสภาพได้รวดเร็ว

     ฟังก์ชันการใช้งานต่างๆที่ใส่มาให้ โดยรวมถือว่าทำงานได้เลย ใช้งานได้จริง เสียงของไมโครโฟน และลำโพง จะเหมาะกับการใช้งานในสถานที่ปิด หรือในร่ม หากออกไปใช้งานนอกสถานที่ ใช้งานได้ แต่จะสู้ในร่มไม่ได้เท่าที่ควร ในด้านของ GPS จากที่ได้ทดสอบทำงานได้ดีในระดับนึงเลย ตอนเชื่อมต่อก่อนออกกำลังกายใช้เวลาประมาณนึง แต่ไม่ได้นานเท่าไหร่ ตัว GPS จากที่ได้ทดสอบมานั้นได้จริง แต่อาจจะสู้ตัวที่มีราคาสูงกว่านี้ซัก 1-2 เท่าตัวไม่ได้ แต่ด้วยความสามารถที่ได้มาในราคาประมาณเท่านี้ ใช้งานได้ดีในระดับนี้ ถือว่าคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายแล้วอย่างแน่นอน อีกฟังก์ชันที่น่าสนใจสำหรับรุ่นนี้ก็คือ การวัดความดันอากาศ และวัดความสูงเหนือระดับน้ําทะเล น่าจะถูกใจผู้ที่ชื่นชอบการปีนเขา หรือท่องเที่ยวภูเขาแน่นอน จากที่ลองมาชั้นที่ทดสอบอยู่บนชั้น 23 ก็สามารถทำงานได้เป็นปกติ ถือว่าฟังก์ชันต่างๆที่เค้าใส่มาให้ สามารถใช้งานได้จริง และไม่ได้จกตาแม้แต่น้อย

     ส่วนเรื่องของแบตเตอรี่ โดยทางแบรนด์เค้าเคลมมาว่า สามารถใช้งานแบบทั่วไป ไม่ได้เปิดฟังก์ชันหลักอะไรมากมาย หรือแทบจะเปิดทิ้งไว้ แล้วใส่เฉยๆจะใช้งานได้ประมาณ 20 วัน แต่จากที่ได้ทดลองใช้งานมาแบบหนักหน่วงจะสามารถใช้งานได้ประมาณ 3-5 วันแบบสบายๆ เปิดสุดทุกฟังก์ชัน ไม่ว่าจะเป็นการโทรเข้า-โทรออก การแจ้งเตือนทุกแอปพลิเคชัน รวมถึงการตรวจวัดด้านสุขภาพแบบเต็มรูปแบบ เท่าที่นาฬิกาตัวนี้จะทำได้ ซึ่งโดยรวมถือว่าทำได้ดีเลย ไม่ได้แย่ แต่อย่างใด เผลอๆ ทำได้ดีกว่าบางรุ่นในท้องตลาดด้วยซ้ำ เพราะได้ลองใส่ไปต่างจังหวัดหลายๆวัน ไม่ต้องชาร์จแต่อย่างใด จึงช่วยให้มั่นใจได้ว่า ไม่หมดระหว่างเที่ยวแน่นอน


สรุป

     จากที่ได้ทดสอบมานั้น ภาพรวมถือว่า ทำได้ดีเลย ใช้งานได้ดีมากๆ ตัวฟังก์ชันต่างๆใช้งานได้จริง และยังไม่เจอปัญหาติดขัดในการใช้งาน ในส่วนของดีไซน์หล่อ ลงตัวกว่าตัวเก่า ทำให้ดูสปอร์ตมากยิ่งขึ้น เข้ากับโทรสีของตัวเรือนได้เป็นอย่างดี ระยะเวลาในการใช้งานถือว่าแบตเตอรี่อึดพอสมควรเลย สามารถใส่ไปต่างจังหวัดได้ 2-3 วันแบบสบายๆ โดยไม่ต้องพกสายชาร์จไปด้วย หน้าจอของเจ้า Mibro Watch GS Pro ตัวนี้อัพเกรด และถูกพัฒนามาให้ดีมากขึ้นกว่ารุ่นเดิมมากๆ ทั้งในเรื่องของความคมชัด ความสว่าง ความลื่นไหลมากกว่าเดิม รวมถึงเซนเซฮร์วันแสงอัตโนมัติที่เพิ่มเข้ามาด้วย ทำให้ใช้งานได้สะดวกกว่าเดิม ไม่ต้องคอยปรับแสงเอง สำหรับถ้าใครถามว่า นาฬิกาตัวนี้เหมาะกับใครต้องบอกว่า เหมาะสำหรับคนที่ต้องการนาฬิกา ที่สามารถใส่ลุยได้ทุกสถานที่ มีฟังก์ชันที่ครบครัน ส่วนลุคการแต่งตัวก็จะเป็นแบบชิวๆลุยๆ หรือคนที่เน้นใส่ในวันทำงานก็ใช้งานได้ไม่มีปัญหาใดๆเลย ถ้าใครจะหานาฬิกาสมาร์ทวอร์ชที่มีฟังก์ชันครบๆ Mibro Watch GS Pro ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่คุ้มค่า และให้ความหล่อที่หลายๆคนต้องการได้อย่างแน่นอน

               สำหรับคะแนนที่เราจะให้หัวชาร์จ Mibro Watch GS Pro มีดังนี้
                  • ฟังก์ชันการใช้งาน 4.5 / 5
                  • ดีไซน์ และความสวยงาม 4.5 / 5
                  • การใช้งาน 4.5 / 5
                  • ราคา 4 / 5
                  • ความคุ้มค่า 4.5 / 5

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้