รีวิว Mibro Watch T2 นาฬิกาสมาร์ทวอร์ช สายหรู ฟังก์ชันครบ จบในตัวเดียว
สมาร์ทวอร์ชอีกหนึ่งรุ่นที่มาคู่กับนาฬิกา Mibro Watch GS Pro ที่เราพึ่งรีวิวไปเมื่อวานก่อน ไม่ว่าสเปคหรือฟังก์ชันต่างๆที่ให้มา ต้องเรียกว่าแทบจะเหมือนกันเลยก็ว่าได้ แตกต่างกันเล็กน้อยมากๆ แต่ด้วยดีไซน์ของตัวนี้จะออกแบบไปทางผู้หญิงมากกว่า นั้นก็คือ Mibro Watch T2 สมาร์ทวอร์ชสุดหรู ที่มาพร้อมกับสเปคที่คุ้มค่า คุ้มราคาไม่แพ้อีกรุ่นที่เปิดตัวพร้อมกันเลย โดยจุดเด่นของรุ่นนี้ก็จะมาพร้อมกับตัวเรือน ที่เป็นโลหะทั้งตัว ให้กลิ่นอายของความหรูดูแพง พร้อมไปกับทุกชุดที่สวมใส่อย่างแน่นอน ในเรื่องของฟังก์ชันต่างๆ ก็จัดเต็มไม่ว่าจะเป็น การใส่ GPS มาให้ในตัวนาฬิกาเลย และฟังก์ชันในการโทรเข้า-โทรออก ที่ถูกยกมาจาก Mibro Watch T1 รุ่นพี่ของเค้าที่ทำให้ตลาดสมาร์ทวอร์ชราคาหลักพันต้นตกใจกันมาแล้ว งั้นไปเริ่มรีวิวกันเลยดีกว่า
ขอพาทัวร์รอบกล่องกันก่อน
โดยกล่องของเจ้า Mibro Watch T2 จะมากับโทนสี และดีไซน์ของกล่องที่คล้ายกับเจ้า GS Pro เลย หน้ากล่องจะโชว์หน้าตาของนาฬิกาให้เราเห็นแบบเต็มๆ (โดยสีของตัวนาฬิกาที่โชว์ก็จะตามสีที่เราสั่งซื้อด้วยนะ) ในตัวของชื่อรุ่น T2 จะเล่นดีเทลเล็กๆ โดยทำเป็นลายของนิ้วมือ หรือบางคนจะมองเป็นลายของม้าลายก็ได้นะ แล้วแต่จินตนาการเลย ด้านบนของหน้ากล่อง จะมีการบอกมาเลยว่า นาฬิการุ่นนี้มาพร้อมกับ Dual-Core 2 in 1 แน่นอนว่าเรื่องของความลื่นไหลน่าจะดีกว่ารุ่นที่ใช้แบบ Single-Core แน่นอน แต่ความพิเศษของชิปตัวนี้นั้น เค้าจะใส่ตัว Bluetooth กับ GPU มาให้ด้วย ซึ่งทำให้การเคลื่อนไหว และการเชื่อมต่อเสถียรมากขึ้นด้วย ด้านข้างจะเป็นโลโก้ GPS ซึ่งอย่างที่เราบอกไปในตอนต้นว่า เค้ามีฟังก์ชันนี้ด้วย ในด้านของการทำงานเดี๋ยวเราจะได้รู้กันในข้อถัดไป สำหรับสายนาฬิการุ่นนี้เค้าให้มา 2 เส้นด้วยนะ เค้าแปะรูปสายมาให้เห็นหน้ากล่องเลย ด้านหลังก็จะเป็นรายละเอียดของนาฬิกาแบบคร่าวๆ รวมถึงอุปกรณ์ภายในกล่องด้วย ส่วนด้านของจะมีสเปคของตัวนาฬิกา โดยจะมีประมาณนี้เลย
• Ultra-Strong 2-in-1 Chip (ชิปเซ็ตของนาฬิกา)
• BT Calling (รองรับการโทรผ่านาฬิกา)
• AMOLED HD Display (หน้าจอขนิด AMOLED)
• GPS Satellite Positioning (มี GPS สามารถระบุตำแหน่งเมื่อวิ่ง)
• 6-Axis Motion Sensor (เซนเซอร์วัดการเคลื่อนไหว 6 แกน)
• Altitude & Barometer (วัดความสูง และความดันอากาศ)
• ฟังก์ชันการตรวจวัดคุณภาพนอนหลับ
• 4-PD Heart Rate Monitoring (เซนเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ 4 จุด)
• 105-Sport Modes (โหมดออกกำลังกาย 105 โหมด)
• 2ATM Water Resist (มาตรฐานการกันน้ำ 20 เมตร)
• สามารถเพิ่ม Access Card ในการปลดล็อกได้
• 10-Days Battery Life (แบตเตอรี่ใช้ได้นานสุด 10 วัน ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง)
แกะกล่องกันเลยดีกว่า
เมื่อแกะกล่องออกมาเราจะเราตัวนาฬิกา Mibro Watch T2 อยู่กลางกล่องเลย แต่เราจะยังไม่พูดถึงตัวนาฬิกา ขอพาไปดูอุปกรณ์อื่นๆภายในกล่องกันก่อน เมื่อหยิบตัวนาฬิกา และเปิดไปที่ภายในกล่อง จะพบกับสายนาฬิกาอีกหนึ่งเส้นที่ทางแบรนด์ได้แถมมาให้ โดยสายที่แถมมาจะเป็นสายซิลิโคนมีความนุ่ม และผิวสัมผัสดีมาก ถ้าผิวสัมผัสประมาณนี้ คาดว่าน่าจะหายห่วงในเรื่องของการสวมใส่เวลาออกกำลังกายแน่นอน เพราะจะไม่ระคายเคืองเวลาเจอเหงือ ตอนออกกำลังกายนานๆ ส่วนสายอีกเส้นที่ใส่มากับนาฬิกา จะเป็นสายหนังที่มีความนุ่มกว่ารุ่น Lite 2 ทำให้เข้ากับข้อมือได้อย่างรวดเร็วมากกว่า เวลาขยับข้อมือ หรือใส่ในชีวิตประจำวันจะไม่รู้สึกรั้งข้อมือ ด้านสายชาร์จที่เค้าให้มาจะเป็นแบบแม่เหล็ก ซึ่งสามารถชาร์จได้ง่าย แม่เหล็กมีแรงดูดที่สูงระดับนึงเลย หลุดยากอย่างแน่นอนถ้าไม่ออกแรงไม่หลุดแน่นอน
พูดถึงตัวนาฬิกากันหน่อย
สำหรับนาฬิกา Mibro Watch T2 นาฬิการุ่นนี้มาพร้อมกับดีไซน์ที่เรียบหรู ซึ่งแตกต่างจากอีกรุ่นที่เปิดตัวพร้อมกัน ด้วยความที่ดีไซน์แบบนี้ทำให้เหมาะกับผู้หญิงมากขึ้น หรือพูดง่ายๆ Mibro Watch GS Pro จะไปทางผู้ชายมากกว่า และ Mibro Watch T2 จะเน้นไปทางกลุ่มของผู้หญิงนั้นเอง สำหรับโอกาสในการใส่น่าจะใส่ได้ทุกโอกาสเลย เพราะด้วยดีไซน์ที่เรียบง่าย ช่วยให้เข้ากับทุกการแต่งตัว ไม่ว่าจะเป็นในวันสบายๆ หรือใส่ทำงานในลุคที่ดูมั่นใจ ก็สามารถทำได้ ถ้าหากต้องไปงานที่ต้องเน้นความเรียบร้อยขึ้นมาอีกระดับนึง ก็ใช้สายหนังที่มาพร้อมตัวนาฬิกา ช่วยขับลุคให้ดูหรู และมั่นมากขึ้นไปอีก เรียกว่าเป็นนาฬิกาที่ Overall ตัวเดียวจบก็น่าจะไม่เกินจริง ถ้าในเรื่องของการดีไซน์ ส่วนในเรื่องของขนาด ด้วยหน้าจอของเค้าที่มีความใหญ่ขึ้นมา ซึ่งแน่นอนทำให้ตัวเรือนใหญ่ขึ้น สำหรับผู้หญิงที่มีข้อมือเล็กๆ อาจจะรู้สึกแปลกตาไปบ้างเมื่อใส่ในครั้งแรก แต่เมื่อใส่ไปซักระยะ ก็จะดูชินตามากขึ้น เนื่องจากนาฬิกาสมาร์ทวอร์ชมักจะมีขนาดที่ใหญ่กว่านาฬิกาทั่วไปอยู่แล้ว จึงไม่แปลกที่จะใส่นาฬิกาที่ใหญ่กว่าข้อมือ
สเปคของเจ้า Mibro Watch T2
อย่างที่บอกไปว่าตัวนี้แทบจะมีสเปคด้านในที่เหมือนกับ Mibro Watch GS Pro เลยแต่จะมีความแตกต่างเล็กน้อยในบางจุด อาทิ การกันน้ำที่ทำได้ 2ATM , เซนเซอร์วัดการเคลื่อนไหว 6 แกน และถูกตัดในเรื่องของเซนเซอร์วัดแสงออกไป แต่โดยรวมแล้ว ถือว่าเป็นสเปคที่คุ้มค่าอยู่ดี เพราะเมื่อเทียบกับราคาค่าตัว กับสิ่งที่ได้มานั้นถือว่าหาตัวจับได้ยากมากๆในเรทประมาณนี้
คุณสมบัติของสินค้า
• ตัวเรือนผลิตจากโลหะคุณภาพสูง พร้อมเม็ดมะยมแบบ Stainless Steel
• หน้าจอ AMOLED ขนาด 1.75 นิ้ว ความละเอียด 390 x 450p (340PPI)
• ค่า Refresh rate ของหน้าจอสูงถึง 60hz
• อัพเกรดความสว่างหน้าจอให้สู้แสงมากขึ้น
• Always-On Display แสดงเวลาตลอด เมื่อหน้าจอดับ
• ชิปเซ็ต Dual-Core 2 in 1 พร้อมฝังชิป Bluetooth 5.3
• ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น 80% + 2.5D GPU
• อัพเกรด GPS ถึง 5 เครือข่าย (GPS / BDS / GLONASS / Galileo / QZSS)
• Altitude & Barometer วัดความดันอากาศ และวัดความสูงเหนือระดับน้ําทะเล
• 6-Axis เซนเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว 6 แกน
• Bluetooth Calling ฟังก์ชันการโทรศัพท์ผ่านนาฬิกา
• อัพเกรดเซนเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจเป็น 4 จุด (4PD) และมาพร้อม SpO2 + วัดการนอนหลับ
• โหมดกีฬาที่เพิ่มาสูงสุดถึง 105 โหมด
• แบตเตอรี่ความจุ 300mAh (ใช้งานแบบไม่ต่อแอปได้นานสุด 10 วัน)
• มาตรฐานการกันน้ำ 2ATM (20 เมตร)
• รองรับ NFC เพื่อใช้งานฟังก์ชันเป็น Access Card
เรามาพูดถึงการใช้งาน และผลการทดสอบได้ลองมาหน่อยดีกว่า
จากที่ได้ทดสอบมา ต้องบอกว่าเลยไม่ผิดหวังเลย สารภาพตรงนี้เลยว่าตอนแรกที่ได้มานึกว่า จะสู้ Mibro Watch GS Pro ไม่ได้ แต่พอได้มาใช้งานจริงๆ กับรู้สึกว่าไม่แตกต่างกันเลย สำหรับฟังก์ชันที่ถูกตัดออกไปนั้นไม่เป็นผลกับการใช้งานทั่วๆไปในชีวิตประจำวันเลย เพราะฟังก์ชันที่เราๆมักจะใช้งานยังอยู่กันแบบครบถ้วน ในเรื่องของ GPS ที่ได้ทดสอบมา เหมือนกับ Mibro Watch GS Pro เลยก็ว่าได้ อาจจะแตกต่างกันไปบางเนื่องจากสัญญาณ หรือคลื่นรบกวน แต่ถือว่าทำได้ดีมากๆแล้ว ในเรทราคาประมาณเท่านั้น รวมถึงสามารถใช้งานได้จริงๆ เลยสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกาย อันนี้ถือว่าตอบโจทย์มากๆ ในด้านของ Bluetooth Calling จากที่ได้ทดสอบมานั้น เสียงลำโพง และเสียงไมโครโฟน อาจจะไม่ได้ดีเท่ากับรุ่นที่มีราคาสูงไปกว่านี้ แต่ถ้าถามว่าสามารถเอาไปใช้งานได้มั้ย ใช้งานได้อย่างแน่นอน ส่วนตัวแล้วมองว่า เค้าเหมาะกับการใช้งานในสถานที่ปิด หรือในร่มมากกว่า การใช้งานในสถานที่ที่มีผู้คนเยอะ หรือเสียงรบกวนที่มากๆ ฟังก์ชันการใช้งานอื่นๆที่ได้ทดสอบมาก็จะมีเรื่องของการวัดความกดอากาศ และความสูงเหนือระดับน้ำทะเล ซึ่งจากที่ได้ทดสอบบนตึกชั้น 23 ก็ถือว่าบอกมาได้โอเคเลย บอกค่าความต่างๆได้สมบูรณ์เลย
สรุป
สำหรับนาฬิการุ่นนี้ ถ้าถามว่าควรซื้อมั้ย บอกเลยว่าซื้อได้เลยไม่ต้องคิดมาก เพราะด้วยความคุ้มค่าต่างๆที่เค้ามีมาให้ รวมถึงฟังก์ชันเหล่านั้นใช้งานได้จริง และไม่ใช่สเปคที่ใส่มาเล่นๆ เรื่องของการดีไซน์ อย่างที่บอกไปว่านาฬิการุ่นนี้มาพร้อมกับการออกแบบที่เน้นความเรียบหรู ดูแพง ด้วยตัวเรือนของเค้าใช้วัสดุโลหะทั้งตัวเรือน จึงทำให้รู้สึกว่าแตกต่างจากสมาร์ทวอร์ชทั่วไปๆอยู่บ้าง ความแข็งแรงทนทานก็หายหน่วง ด้วยชื่อของ Mibro ที่ส่วนใหญ่จะเน้นวัสดุที่มีคุณภาพสูง และเกิดความเสียหายจากการใช้งานได้ยาก ทำให้คนที่มักจะใส่นาฬิกาแล้วชนนู้นชนนี่ สามารถหายห่วงได้เลย แล้วถ้าถามว่านาฬิการุ่นนี้เหมาะกับใครหละก็ เราคงจะต้องบอกว่าน่าจะเหมาะกับผู้หญิงมากกว่า แต่สำหรับผู้ชายก็สามารถใส่ได้ เพราะด้วยขนาดตัวเรือนที่มีความใหญ่พอสมควร ทำให้อยู่บนข้อมือของผู้ชายได้สบายๆ
สำหรับคะแนนที่เราจะให้หัวชาร์จ Mibro Watch T2 มีดังนี้
• ฟังก์ชันการใช้งาน 4.5 / 5
• ดีไซน์ และความสวยงาม 5 / 5
• การใช้งาน 4.5 / 5
• ราคา 4.5 / 5
• ความคุ้มค่า 4.7 / 5